ประวัติความเป็นมา องค์การบริหารส่วนตำบลช่องสะแก

     ประวัติศาสตร์เมืองเพชรบุรี เคยตั้งรับข้าศึกเขมร คราวยกทัพเรือมาตีเมืองเพชรบุรี ข้าศึกได้มาถึงสองคราว แต่คราวหลังรี้พลมีมากเข้าตรึงกำลังล้อมเมืองเพชรบุรีอยู่นาน จนภายในเมืองเกิดความระส่ำระสาย ในที่สุดข้าศึกก็ตีเข้าเมืองได้ทางประตูทางด้านตะวันออก เรียกว่าประตูเมืองด้านบางจน เมืองเพชรบุรีจึงเสียแก่เขมร ข้าศึกได้ทรัพย์สินของมีค่าเป็นจำนวนมาก และผู้คนก็ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย ทำให้เมืองร้างไปในคราวนั้น และทำให้บนกำแพงเมืองซึ่งเป็นถนนสูงถูกปล่อยปละละเลยมีต้นสะแกมากเป็นจำนวนมาก ถนนที่เป็นทางเดินสัญจรไปมาจึงเป็นช่องมองทะลุเป็นปล้องไปไกล เรียกว่าเป็นช่องสะแก ต่อมาจึงได้นำมาเป็นนามตำบลว่า ตำบลช่องสะแก
     ถนนสูงหรือกำแพงเมืองปัจจุบันได้หมดสภาพไปแล้ว เพราะหลังจากเกิดเหตุไฟไหม้เมืองเพชรบุรีครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.2492 แล้วทางเทศบาลและชาวบ้าน ได้นำรถยนต์มาขุดลอกดินบนกำแพงเมืองหมดไปจนถึงพื้นล่าง เพราะครั้งก่อนกำแพงเมือง มีความสูงขนาดครึ่งหนึ่งของเสาไฟฟ้าและมีความยาวรวม 1 กิโลเมตรนับตั้งแต่บ้านคลองยางถึงหัวป้อมแล้วตรงไปถึงทางรถไฟ บัดนี้ได้มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนขึ้นแทน
     หมู่บ้านหลายแห่งรวมขึ้นเป็นตำบล บ่งบอกพื้นฐานเดิมจากนามว่า ช่องสะแก คือ การเดินทางเข้า-ออก ของตำบลนี้เข้าสู่ตัวเมือง จะต้องผ่านถนนสูงหรือถนนที่ทำขึ้นบนสันของกำแพงเมือง เป็นถนนที่มีต้นสะแกขึ้นคลุมอยู่รกครึ้มทั้งสองฝั่งถนน ดังนั้น ความหมายของชื่อต่าง ๆ ของหมู่บ้านล้วนมีความหมายและมีที่มา ยกตัวอย่างเช่น บ้านโคกหม้อ, บ้านนาข้าวตอก, บ้านไร่มะนาว, บ้านป่าขวาง, บ้านหัวข่อย, บ้านโตนดหลาย, บ้านไร่อ้อย, บ้านสวนกล้วย, บ้านปากคลอง, บ้านนาหัวเรือ ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อันเกิดขึ้นจากน่าและไร่สวนอันอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ในตำบลช่องสะแก